ประโยชน์: โฟแมกซ์ สังกะสี 700 เป็นธาตุอาหารเสริมที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช อยู่ในรูปครีมสูตรเข้มข้นสูง ประกอบด้วยอนุภาคเล็กละเอียด มีความปลอดภัยต่อพืช ละลายน้ำได้ดีเยี่ยม มีประสิทธิภาพในการเกาะติดใบได้ดี และดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อพืชได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องสม่ำเสมอ
ป้องกันและรักษาอาการใบแก้วในส้ม มะนาว ส้มโอ ช่วยสร้างคลอร์โรฟิลล์ทำให้ใบเขียวเข้มสมบูรณ์ ช่วยส่งเสริมให้พืชแตกยอดและแตกตาดอกได้ดี ช่วยให้พืชทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
วิธีใช้:
ส้ม มะนาว ส้มโอ
- ใช้อัตรา 5-10 มิลลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อป้องกันโรคใบแก้วที่เกิดจากการขาดธาตุสังกะสีควรพ่น 2-3 ครั้ง ในระยะแตกใบอ่อน โดยพ่นครั้งแรก ระยะเริ่มแตกตาใบ และพ่นซ้ำห่างกัน 7-10 วัน
- ใช้อัตรา 15 มิลลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร สำหรับต้นพืชที่มีอาการขาดธาตุสังกะสีแล้ว ควรพ่นระยะแตกตาใบ และพ่นซ้ำห่างกัน 5-7 วัน จนถึงระยะใบเพสลาด
ทุเรียน เงาะ มังคุด ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง ชมพู่ ฯลฯ
- ใช้อัตรา 5-10 มิลลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเป็นประจำในระยะการผลิและแตกตา โดยพ่น 2 ครั้ง ห่างกัน 7-14 วัน
องุ่น
- ใช้อัตรา 5-10 มิลลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นครั้งแรกระยะตาดอกเริ่มผลิ และพ่นอีกครั้งระยะดอกบาน หรือระยะติดผล
หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียม
- ใช้อัตรา 5-10 มิลลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร ระยะมีใบ 4-6 ใบและพ่นซ้ำ 1-2 ครั้ง ห่างกัน 10-14 วัน
ไม้ดอกไม้ประดับ เช่น กุหลาบ กล้วยไม้ เยอบีร่า
- ใช้อัตรา 5-8 มิลลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นครั้งแรกระยะเริ่มแตกตาและพ่นอีก 1-2 ครั้ง ห่างกัน 7-10 วัน
คำแนะนำ: ควรอ่านคำแนะนำเอกสารกำกับปุ๋ยเคมีให้เข้าใจเสียก่อน หากไม่เข้าใจ หรือ มีปัญหาสงสัยให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมเกษตรในท้องถิ่น เพื่อให้การใช้ปุ๋ยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และไม่ควรใช้เกินอัตราที่กำหนดเพราะจะเป็นอันตรายกับพืชได้
ข้อควรระวัง:
- ก่อนใส่ปุ๋ยเคมี ควรกำจัดวัชพืชให้หมดเสียก่อน เพื่อป้องกันมิให้วัชพืชมาใช้ปุ๋ยเคมีที่ใส่ลงไป
- ควรใส่ปุ๋ยเคมีเมื่อดินมีความชื้นอยู่ เมื่อใส่ปุ๋ยเคมีควรกลบดิน ในกรณีที่มีการให้น้ำควรให้น้ำน้อยๆ ก่อน แล้วจึงเพิ่มให้มากขึ้น ถ้าให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ควรใส่ปุ๋ยเคมีแก่พืชในช่วงที่มีแสงแดดจัด ฝนไม่ตก
- ควรหมั่นดูแลป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูพืชอยู่เสมอ
- ควรเก็บปุ๋ยเคมีในภาชนะที่ปิดมิดชิด อย่าให้ถูกความร้อน แสงแดด และฝน